Thursday 30 July 2009

Chicken Farm Special Project: The Quest for the Real Red Velvet Cake!

เดือนนี้ฟาร์มไก่มีโปรเจ็คท์พิเศษค่ะ เราชวนกันทำเค้กสีแดงค่ะ เรียกให้เดิ้นหน่อยก็คือ Red Velvet Cake นั่นเอง งานนี้ไม่มีโฮสท์อย่างเป็นทางการนะคะ มีแต่ผู้ประสานงา เอ๊ยประสานงานค่ะ คือพี่ปุ๊ก dailydelicious และผู้จุดประกายโปรเจ็คท์ของเรา ก็คือสมาชิกใหม่แกะกล่อง พี่เหมียว blog..ชั้นเอง


นี่เป็นการทำ Red Velvet Cake ครั้งแรกของก้อยเลยค่ะ ตื่นเต้นสุด ๆ เพราะว่าพี่เหมียวมีประสบการณ์ สยอง จากการทำขนมชนิด นี้มาแล้ว ก้อยเลยเกิดอาการจิตตก กว่าจะเริ่มทำได้ก็อ่านสูตร หลายสูตรค่ะ เลือกไม่ถูกเลย แต่ก็ต้องขอบคุณอาการจิตตก ของ ตัวเองค่ะ เพราะทำให้เวลาทำจริงนี่ ค่อนข้างมั่นใจกับผลลัพธ์ ต้องใช้คำว่า ค่อนข้าง เพราะยังไม่ชัวร์จน กว่าเค้กจะ อบสุก ออกมาจากเตา


ชื่อเค้กก็ได้มาจากสีแดงแรงฤทธิ์ของตัวเค้กเองค่ะ เกิดจากการผสมกันของสีผสมอาหาร ผงโกโก้ และกลิ่นวานิลลาค่ะ ถ้าเราใส่ 3 อย่างนี้ในปริมาณที่ไม่เหมาำะสมจะมีผลต่อรสชาติของ ขนมอย่างมากค่ะโดยเฉพาะสีและ ผงโกโก้ค่ะ ถ้าใส่เยอะเกินไปเนี่ย จะได้ขนมที่รสชาติสยองมากเลย เท่าที่ก้อยอ่านเทียบกันหลาย ๆ สูตรนะคะ เค้กขนาด 1 ปอนด์ หรือ คัพเค้ก 12 ชิ้น จะใช้สีน้ำแบบธรรมดา 1 ช้อนโต๊ะ หรือ ประมาณ 20 ml ผสมกับ ผงโกโก้ 1 - 1.5 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 10 กรัมค่ะ ส่วนกลิ่นวานิลลานี่ เป็นตัวช่วยให้ขนมมีกลิ่นหอมค่ะ กลบกลิ่นสีผสมอาหารซะ หมดไม่มีเหลือ นอกจากนี้ก้อยยังไปได้ไอเดียมาบล๊อกของน้องเช้า

Chibiasa น้องเค้าใช้น้ำราสเบอรี่ มาช่วยเพิ่มสีและรสค่ะ

Red Velvet Cake




พิมพ์กลมขนาด 6 นิ้ว หรือ คัพเค้ก 12 ถ้วย

60 กรัม

เนยจืด, นุ่ม

130 กรัม

น้ำตาล

1

ไข่ไก่

10 กรัม

ผงโกโก้แบบ Dutch-processed

¼ ช้อนชา

สีแดงแบบเจล

ผสมกับสีแล้วได้ 20 ml

น้ำราสเบอรี่

½ ช้อนชา

Pure vanilla extract

60 ml

Whipping cream

60 ml

นมสด

1 ช้อนชา

น้ำส้มสายชูหมักจากแอ๊ปเปิ้ล

150 กรัม

แป้งอเนกประสงค์

½ ช้อนชา

เกลือ

½ ช้อนชา

เบ้กกิ้งโซดา

1 ½ ช้อนชา

น้ำส้มสายชูกลั่น (ก้อยใช้อ.ส.รค่ะ)

1 สูตร

Cream cheese frosting


* ถ้าไม่มีสีแบบเจล ให้ใช้สีแบบน้ำธรรมดาค่ะ โดยใช้สี 20 ml หรือ สี 10 ml + น้ำราสเบอรี่ 10 ml

เตรียมพิมพ์ โดยการทาเนยแล้วโรยแป้งบาง ๆ และอุ่นเตาที่ 170 C

ผสมครีม นมสด และ น้ำส้มสายชูหมัก เข้าด้วยกัน

ตีเนยกับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟูขาว จากนั้นเพิ่มความเร็วเครื่องขึ้นและค่อยใส่ไข่ไก่ที่ตีพอแหลกลงไปช้า ๆ จนเข้ากันดี พักไว้


ในถ้วยผสมใบเล็ก ใส่สีแดง น้ำราสเบอรี่ pure vanilla extract และผงโกโก้ลงไป ผสมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

ใช้พายยางผสมสีลงในครีมเนยที่ตีไว้ จนเข้ากันดี


จากนั้นเทนมเปรี้ยวที่ผสมไว้ตอนแรกลงไปครึ่งนึง แล้วตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ ตามด้วยแป้งครึ่งส่วน ตีให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่นมเปรี้ยวส่วนที่เหลือ ตีให้พอเข้ากัน แล้วจบด้วยแป้งที่เหลือ ผสมด้วยความเร็วตำให้พอเข้ากัน แล้วจึงเพิ่มความเร็วขึ้น แล้วตีต่อให้ส่วนผสมเนียน ประมาณ 60 วินาที


ผสมเกลือ เบ้กกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชูกลั่นเข้าด้วยกัน ในถ้วยแก้วใบเล็ก จากนั้นเทลงในแบทเทอร์ที่ตีได้ แล้วตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มความเร็วขึ้นแล้วตีต่อไปอีก 60 วินาที จนได้ส่วนผสมที่เนียนเข้า กันดี

เทใส่พิมพ์ แล้วนำเข้าอบใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที หรือจนสุก เอาไม้ปลายแหลมจิ้มดูแล้วไม่มีเศษเค้กติดออกมา


Cream Cheese Frosting

108 กรัม

เนยสดจืด, นุ่ม

250 กรัม

ครีมชีส, นุ่ม

120 กรัม

น้ำตาลไอซิ่งร่อน

1/3 ช้อนชา

เกลือ

¾ ช้อนชา

Pure vanilla extract


ตีครีมชีสให้ขึ้นฟูเล็กน้อย แล้วใส่เนยลงไปตีผสมให้เข้ากันดี จากนั้นก็ใส่น้ำตาลไอซิ่ง เกลือ และวานิลลาลงไป ตีให้ได้ครีมเนียน


Assembling the cake:

สไลด์เค้กส่วนเกินออก แล้วบดให้เป็นครัมเล็ก ๆ เก็บส่วนนี้ไว้

ขูดมะพร้าวแก้ว 30 กรัม แล้วพักไว้

สไลด์เค้กเป็น 3 ชั้น แล้วปาดครีมชีสฟรอสติ้งลงไปทีละชั้น ทำจนครบแล้วปาดเค้กทั้งก้อนด้วยครีมชีสฟรอสติ้งที่เหลือ ก้อยใช้วิธี
crumb coating ค่ะ โดยการปาดครีมบาง ๆ ทั่วทั้งก้อนเค้กก่อน แล้วนำเค้กเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงนำเค้กออกมาปาดด้วยครีมอีกรอบค่ะ
โรยด้านบนของเค้กด้วย red crumb cake
ผสมกับ มะพร้าวแก้วขูดฝอย



ที่มาของสูตร:

Cake - The Hummingbird Bakery Cookbook

Frosting - Baking with Passion (Baker and Spice)


Chicken Farm Special Project: The Quest for Real Red Velvet Cake!

Sunday 19 July 2009

Chicken Farm Bakers' Project #12: Low-carb Dessert - Yoghurt and Friends



เดือนนี้มาพร้อมของหวานที่ทานแล้วสบายทั้งกาย และใจค่ะ พี่สาวสุดสวย เจ้าของนิยาม "ติสต์ตัวแม่" พี่นก popang เป็นโฮสท์ของเดือนฝนพรำ ให้โจทย์ว่าขอให้เพื่อน ๆ ช่วยกันนำเสนอ ของหวานสำหรับสาว ๆ ที่อยากกินหวาน แต่ไม่อยากอ้วน ขอแบบเบา ๆ ทานแล้วไม่หนักพุง กว่าก้อยจะสรุปได้ว่าจะทำอะไร ก็ได้ครองตำแหน่งประจำซะแล้ว ตำแหน่งอะไรเอ่ย... บ๊วย ไงค่ะ

หลังจากที่เปลี่ยนใจไปมาระหว่างหลายๆ ตัวเลือก ก็ได้ออกมาเป็น ของหวานง่าย ๆ ที่ก้อยทำทานเองแทบจะทุก ๆ วัน โดยที่ไม่รู้เลยว่า ไอ้ที่เราทำทานเอง เนี่ยมันคือ ของหวาน low-carb คนเราก็อย่างนี้แหล่ะค่ะ อะไรที่อยู่ใกล้ตัวมากเกินไป มักจะถูกมองข้าม

Yoghurt and Friends ก็คือ การพบกันอย่างลงตัวของ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับ บรรดาผองเพื่อนค่ะ ได้แก่ งาดำคั่วบด จมูกข้าวสาลีอบ ถั่วอบ ลูกพรุน และ แครนเบอรี่ ไม่จำเป็นว่าต้องใส่ส่วนผสม เหมือนก้อย ทุกอย่างนะคะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ แค่ขอให้พยายามทานของที่มีประโยชน์ และหลากหลาย จะทำให้ร่างกายแข็งแรงค่ะ



Yoghurt and Friends

สำหรับ 2 ที่

ส่วนผสม

2 ถ้วยบรรจุ (ถ้วยละ 150 กรัม)

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

1 ช้อนโต๊ะ

งาดำคั่วบด

1 ช้อนโต๊ะ

จมูกข้าวสาลีอบ

5 ชิ้น

ลูกพรุนไร้เมล็ด

2 ช้อนโต๊ะ

แครนเบอรี่แห้ง

1 ช้อนโต๊ะ

อัลมอนด์อบ

1 ช้อนโต๊ะ

พิตาชิโออบ

1 ช้อนโต๊ะ

แมคคาดิเมียอบ



วิธีทำ

1.ผสมโยเกิร์ต งาดำ และ จมูกข้าวสาลี เข้าด้วยกัน โดยเหลืองาดำ และจมูกข้าวสาลีไว้โรยหน้าด้วย จากนั้นพักส่วนนี้ไว้

2.หั่นลูกพรุนเป็นชิ้นเล็ก ๆ และ สับถั่วแต่ละชนิดหยาบๆ ไม่ต้องป่นมาก

3.เรียงส่วนผสมลงในแก้วที่เตรียมไว้ เริ่มจากลูกพรุน โยเกิร์ต แครนเบอรี่ ถั่วต่าง ๆ โยเกิร์ต และตกแต่งด้วยส่วนผสมต่าง ๆ อย่างละนิดหน่อย ให้สวยงามค่ะ

Chicken Farm's Bakers Project #12: Yoghurt and Friends